กระบวนการหาจุดเข้าเทรด (Entry Point) ที่มีประสิทธิภาพ เมื่อราคากำลังเข้าใกล้แนวต้าน (Resistance) และแสดงสัญญาณกลับตัวอย่างชัดเจน
1. แนวต้าน (Resistance) คืออะไร?
แนวคิด:
• แนวต้าน (Resistance) คือระดับราคาที่มีแรงขายสูง ทำให้ราคาขึ้นไปไม่ผ่านและมีโอกาสกลับตัวลง
• เมื่อตลาดขึ้นไปทดสอบแนวต้านแล้วไม่สามารถทะลุได้ มักจะเกิดแรงขายตามมา
ตัวอย่างในภาพ:
• เส้นสีเขียวแนวนอนคือแนวต้าน
• ราคาขึ้นไปทดสอบแนวต้าน และเกิดสัญญาณกลับตัว
2. การอ่านแท่งเทียน (Candlestick Analysis) เพื่อหาสัญญาณกลับตัว
ในภาพจะแบ่งขั้นตอนการกลับตัวใกล้แนวต้านออกเป็น 3 ส่วนสำคัญ:
1) Rejection Candle (แท่งปฏิเสธราคา)
• แท่งเทียนที่มีไส้ยาวด้านบน (Upper Wick) แสดงให้เห็นว่า ราคาขึ้นไปสูง แต่ถูกกดกลับลงมา
• บ่งบอกว่า แรงขายเริ่มเข้ามา และไม่สามารถผ่านแนวต้านได้
2) Confirmation Candle (แท่งยืนยันสัญญาณ)
• หลังจากเกิด Rejection Candle แล้ว จะมีแท่งเทียนถัดไปที่ ปิดต่ำกว่าราคาปิดของ Rejection Candle
• เป็นสัญญาณยืนยันว่า แรงขายแข็งแกร่ง และราคาเริ่มกลับตัวลง
3) Candle Trade Entry (แท่งเทียนสำหรับเข้าเทรด)
• หลังจากมีแท่งยืนยันแล้ว สามารถเปิดสถานะ ขาย (Short) ได้
• จุดเข้าเทรดมักจะอยู่ที่บริเวณ ต่ำกว่าราคาปิดของแท่งยืนยัน
3. การยืนยันแรงโมเมนตัมขาลง (Bearish Momentum Confirmation)
แนวคิด:
• เมื่อราคากลับตัวลงหลังจากทดสอบแนวต้าน จะมี แท่งเทียนแดงหลายแท่งเรียงต่อกัน แสดงว่า แรงขายแข็งแกร่งต่อเนื่อง
• ยืนยันว่าตลาดกำลังเข้าสู่แนวโน้มขาลง (Downtrend)
ตัวอย่างในภาพ:
• หลังจากเข้า Short แล้ว ราคาย่อลงต่อเป็นแท่งแดงยาว (Strong Bearish Momentum)
4. ข้อควรรู้เพิ่มเติมในการตั้ง Stop-Loss (SL) และ Take-Profit (TP)
Stop-Loss (SL):
• ควรวาง SL เหนือไส้เทียนสูงสุดของ Rejection Candle เพื่อป้องกันการโดนลาก
Take-Profit (TP):
• กำหนด TP ตามแนวรับถัดไป หรือใช้ Risk-Reward Ratio (เช่น 1:2 หรือ 1:3) เพื่อคำนวณเป้าหมายกำไร
สรุปง่าย ๆ:
รอให้แนวต้านทำงาน + ดูแท่งเทียนกลับตัว + ยืนยันด้วยแท่งถัดไป + เข้าเทรดและวางแผนจัดการความเสี่ยงให้รอบคอบ!
ใส่ความเห็น